Blog Archive
-
►
2012
(1)
- ► กุมภาพันธ์ (1)
-
►
2011
(1)
- ► กุมภาพันธ์ (1)
-
▼
2010
(89)
-
▼
เมษายน
(13)
- *ประเทศไทยมีทหารประมาณกี่นาย
- *สรรเสริญ แก้วกำเนิด (เสธ.ไก่อู)
- *แด่ทหารชั้นผู้น้อย ผู้เสียสละ
- *ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 เม.ย. 53
- *ผลสลากออมสินพิเศษ งวดวันที่ 16 เม.ย. 53
- *ผลสลากออมทรัพย์ ธกส. งวด 16 เม.ย. 53
- *คลิปอริสมันต์ โรยตัวหนี SC PARK
- *ZENVO ST1 ซูเปอร์คาร์ "มือทำ" 1,104 แรงม้า
- *เรื่องย่อละคร จงกลกิ่งเทียน
- *”หลิน ยู ชุน” ซูซาน บอยล์ แห่งไต้หวัน
- *เหวง โตจิราการ "อย่ามาเหวง นะ"
- *ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 1 เม.ย. 53
- *มารู้จักระเบิดขว้างชนิดต่างๆกัน
- ► กุมภาพันธ์ (17)
-
▼
เมษายน
(13)
กระทรวงกลาโหมเป็นหน่วยราชการหลักที่มีหน้าที่โดยตรงในการปฏิบัติตามรัฐ ธรรมนูญว่าด้วยความมั่นคงของชาติ
ข้อมูลต่างๆ ของทหารถือเป็นเรื่องลับ แม้แต่การของบประมาณประจำปีก็สามารถให้รายละเอียดได้ไม่กี่สิบหน้า
ขณะ ที่กระทรวงทบวงกรมอื่นต้องมีรายละเอียดเป็นร้อยๆ หรือพันหน้า
ข้อมูลข่าวกรองซีไอเอและสถาบันศึกษาทางทหารต่างประเทศระบุว่า
กองทัพ ไทยมีจำนวนรวมกันทั้งสิ้น 315,000 คน
กำลังพลสำรอง 200,000 คน
นับ เป็นอันดับที่ 16 ของโลก โดยมีกำลังพลมากกว่าอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมัน แต่เป็นรองพม่า(อันดับ 10 กำลังพล 490,000 คน) เวียดนาม (อันดับ 11 กำลังพล 485,000 คน)
ไม่ทราบจำนวนนายทหารระดับชั้นนายพลทั้งกองทัพว่ามีอยู่เป็นจำนวนเท่าใด
แต่น่าจะไม่ต่ำกว่า 1,500 คน ขณะที่กองทัพเขมรมีนายพลถึง 613 คน
พันเอกสรรเสริญ แก้วกำเนิด ชื่อเล่น ไก่อู เป็นอดีตโฆษก คณะมนตรีความมั่นคงแห่ง ชาติ และโฆษก ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ ฉุกเฉิน
วันที่เกิด 14 สิงหาคม 2506
บิดา : พ.ต.ท.ภานุข แก้วกำเนิด
มารดา : นางเพ็ญนภา แก้วกำเนิด
พื้นเพอยู่ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ พ่อเป็นตำรวจ แม่เป็นครู เป็นบุตรคนที่ 2ในจำนวนพี่น้อง 3 คน
(ชายล้วน 1.ไก่โรส 2.ไก่อู 3.ไก่งวง) เนื่องจากครอบครัวมีฐานะทางเศรษฐกิจไม่ดี จึงย้ายมาย่าเลี้ยงที่
จ. เพชรบุรี
แต่งงานเมื่อปี 2542 ภรรยาชื่อศิขริน แก้วกำเนิด นามสกุลเดิม เอกะวิภาต มีรีสอร์ทอยู่ที่ราชบุรี ชื่อเดือนล้อมรีสอร์ท
การศึกษา
- ประถมศึกษา โรงเรียนอรุณประดิษฐ เพชรบุรี
- มัธยมศึกษา โรงเรียนรัตนาธิเบศร์ (โรงเรียนวัดบางขวาง) จ.นนทบุรี (ระดับชั้น มศ. 2-3)
-โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 23 (รุ่นสุดท้ายที่เรียนในโรงเรียนนายร้อย ถนนราชดำเนิน และได้ร่วมขบวนเดินตามสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปเข้าที่ตั้งแห่งใหม่ ที่เขาชะโงก จ.นครนายก)
- โรงเรียนนายร้อย จปร. รุ่นที่ 34
- โรงเรียนเสนาธิการทหารบก
การทำงาน และตำแหน่งหน้าที่
- ปี 2530 ผู้บังคับหมวดลาดตระเวน กองพันทหารม้าที่ 3 รักษาพระองค์
- นายทหารยุทธการและการฝึกของกองพัน
- ฝ่ายเสนาธิการ กรมกิจการพลเรือนทหารบก
- นายทหารติดต่อกองทัพบก-กรมป่าไม้
- ฝ่ายข่าว ททบ.
- เลขานุการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบกส่วนหน้า ที่อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา
- รองผู้อำนวยการกองปฏิบัติการจิตวิทยา กรมกิจการพลเรือนทหารบก
- โฆษกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ
- 1 ตุลาคม 2551 โฆษกกองทัพบก
- ปัจจุบันโฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.)
- และโฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)
เพิ่มเติม
หลังจบการศึกษา เข้าประจำหน่วยกองพันทหารม้าที่ 3 รักษาพระองค์ เคยมีบทบาทในเหตุการณ์พฤษภา 35
เคยเป็นรองผู้อำนวยการกองปฏิบัติการจิตวิทยา ของกรมกิจการพลเรือนทหารบก
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน มอบหมายภารกิจให้ลงไปปฏิบัติงานที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
เคยช่วยงานการวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารของ คปค.
ในช่วงเหตุการณ์เสื้อแดงปี 53 มีบทบาทสำคัญในการตอบโต้ทางข้อมูลข่าวสารกับกลุ่มคนเสื้อแดง
Sansern Fan Club
http://www.facebook.com/pages/Sansern-Fan-Club/115047418519090?v=wall
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด
http://www.facebook.com/group.php?gid=114932818533049&v=wall
เป็น MV ที่เพื่อนเราใน twitter ทำใว้ เพื่อนท่านนั้นกล่าวไว้ว่า
“ขอมอบให้ทหารและ ครอบครัวทหาร ผู้เสียสละเลือดเนื้อความสุขเพื่อความสงบสุขของพวกเรา
ขอมอบให้นายกและ ครอบครัวของท่าน ผู้เสียสละทั้งทุกสิ่งเพื่อตั้งมั่นในความดีต่อสู้กับ ความชั่ว และแรงบีบบังคับรอบด้าน
ขอมอบให้ทุกคน ที่ยังรักชาติและในหลวง ลุกขึ้นมาครับ มาปกป้องสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์”
เมื่อชมแล้วผมโดยส่วนตัวชอบมากครับ ขออณุญาตนำมาเผยแพร่ต่อ ในฐานะ ‘คนใจเดียวกัน’
ประจำงวดวันที่ 2010-04-16
รางวัลที่ 1
211743
ข้างเคียงรางวัลที่ 1
211744 211742
รางวัลที่ 2
735054 499842 754286 007384 941434
รางวัลที่ 3
250029 935400 793484 587075 676618 499541 017333 834031 120753 786327
รางวัลที่ 4
391493 790451 210615 882686 089578 601021 300487 969950 976563 698538 828912 390052 328672 746884 669964 210650 774148 928125 030095 479751 521805 986062 196958 644666 878819 898513 767948 266109 746428 493292 499370 423200 864980 580197 310789 051376 440956 404001 351261 163912 083058 638516 056379 788903 935164 738940 657842 500948 290611 296182
รางวัลที่ 5
989942 893753 250241 718349 687661 238293 544578 197145 988908 258970 005047 883264 735523 793592 164752 012919 216041 167575 041342 923211 174163 849639 359987 760815 590800 303556 652876 924916 647946 154747 959580 236359 846625 144089 682191 816119 159661 805832 553793 463850 797896 311163 900445 399526 475385 365831 591448 231659 551144 744953 762081 670471 598855 673318 293813 483687 007713 643425 676935 841048 531402 368886 437209 304731 633911 322790 889133 827515 194378 989371 329737 591270 633173 098307 415481 232373 461049 126140 485042 720634 591320 796379 058795 324320 122023 756178 428020 467071 456487 172676 765086 451838 427940 465987 232612 521251 692931 049414 784648 511958
รางวัลเลขท้าย 3 ตัว
811 744 154 285
รางวัลเลขท้าย 2 ตัว
96
Zenvo ST1 สปอร์ตคูเป้สมรรถนะสูงระดับซูเปอร์คาร์จากค่ายรถแห่งเดนมาร์กที่ผลิต ในแบบ "มือทำ" ที่ สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 375 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยเครื่องยนต์สามารถรีดแรงม้า สูงสุดได้ถึง 1,104 แรงม้า
สปอร์ตซูเปอร์คาร์สายพันธุ์ใหม่ล่าสุด เปี่ยมสมรรถนะ ความร้อนแรง โดดเด่นที่เครื่องยนต์ติดตั้งระบบซูเปอร์ชาร์จและเทอร์โบชาร์จ โดยสามารถเลือกใช้แยกส่วนของเทอร์โบชาร์จหรือซูเปอร์ชาร์จอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือใช้ทั้ง 2 ระบบ
Zenvo ST1 ได้รับการวางรูปแบบเครื่องยนต์วางกลางลำตัว ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ถ่ายทอดกำลังด้วยระบบเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ติดตั้งลิมิเต็ด สลิปดิฟเฟอร์เรนเชียลควบคุมด้วยไฮดรอลิก
เครื่อง ยนต์ที่ติดตั้งเป็นแบบ วี-8 สูบ ขนาด 7.0 ลิตร ติดตั้งระบบซูเปอร์ชาร์จและเทอร์โบชาร์จ จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 16 วาล์ว สามารถขับแรงม้าสูงสุด 1,104 แรงม้าที่ 6,900 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุด 1,430 นิวตัน-เมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที เฉลี่ยให้พละกำลังต่อน้ำหนักเท่ากับ 2.7 ปอนด์ต่อแรงม้า และเฉลี่ยให้แรงม้าต่อลิตรเท่ากับ 157.7 แรงม้าต่อลิตร โดยมีน้ำหนักรถเปล่า 1,376 กิโลกรัม
สมรรถนะการทำความเร็ว จาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง ภายในเวลา 3 วินาที โดยความเร็วสูงสุดจำกัดด้วยอิเล็กทรอนิกส์ไว้ที่ 233.1 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 375 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง โดยระบบถ่ายทอดกำลังเป็นแบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด
ระบบกันสะเทือนเป็นแบบ ปีกนกคู่ โช้กอัพแก๊ส ปรับระดับได้ 3 ทิศทางเวอร์ชั่นรถแข่งของ Ohlins ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ส่วนระบบเบรกประสิทธิภาพสูงเป็นแบบดิสก์มีร่องระบายความร้อน คาลิเปอร์ จำนวน 6 ลูกสูบทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ผลิตจากอัลลอยน้ำหนักเบาพิเศษ ดิสก์คู่หน้า ขนาด 15 นิ้ว คู่หลัง ขนาด 14 นิ้ว
รูปโฉมภายนอกออกแบบปราดเปรียวเป็นเหลี่ยมมุมรูปทรงเรขาคณิต แผงกระจังหน้า ออกแบบเป็นช่องดักอากาศขนาดใหญ่ ฝากระโปรงหน้ามีช่องระบายอากาศ เส้นสายต่อเนื่อง ตั้งแต่ด้านหน้าจดด้านท้าย กรอบไฟหน้าขนาดใหญ่ ออกแบบด้านท้ายเป็นสปอยเลอร์ท้ายในตัว กระทะล้อคู่หน้า ขนาด 19 นิ้ว คู่หลัง ขนาด 20 นิ้ว ผลิตจากอะลูมิเนียมหล่อแข็งพิเศษ
Zenvo ST1 สปอร์ตซูเปอร์คาร์พันธุ์เดือดจากเดนมาร์ก มีการเปรียบเทียบกันว่าสามารถขับข้ามประเทศเดนมาร์กได้ภายในเวลาเพียง 18 นาทีเท่านั้น
.....SPECIFICATIONS.....
ZENVO ST1
เครื่องยนต์ แบบ วี-8 สูบ เทอร์โบชาร์จและซูเปอร์ชาร์จ 16 วาล์ว ขนาด 7.0 ลิตร
แรงม้าสูงสุด 1,104 แรงม้าที่ 6,900 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 1,430 นิวตัน-เมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที
เฉลี่ยพละกำลังต่อ น้ำหนัก 2.7 ปอนด์ต่อแรงม้า
เฉลี่ย แรงม้าต่อลิตร 157.7 แรงม้าต่อลิตร
รูปแบบ วางเครื่องกลางลำ/ขับหลัง
น้ำหนัก รถเปล่า 1,376 กก.
สมรรถนะ
จาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง 3 วินาที
ความเร็วสูงสุด 233.1 ไมล์ต่อชั่วโมง
ระบบถ่ายทอดกำลัง ธรรมดา 6 สปีด
ระบบกันสะเทือน ปีกนกคู่ โช้กอัพแก๊ส ปรับระดับ
ระบบเบรก ดิสก์มีร่องระบายความร้อน คาลิเปอร์ 6 ลูกสูบ
กระทะล้อ หน้า ขนาด 19 นิ้ว หลัง ขนาด 20 นิ้ว
เรื่องย่อละคร จงกลกิ่งเทียน
เจ้าบัวเทียน หญิงชราวัย 85 ปี นั่งเล่าเรื่องราวชีวิตของตนเองให้ กอหญ้า หลานชายฟังถึงความอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับตน ชื่อเดิมของเธอคือ “เทียนกันยา” พ.ศ.2495 หลังพ่อแม่เสียชีวิต เทียนกันยากับโกมุท หรือ ก้อง น้องชายได้ดูแลสมบัติของตน ทั้งสองอาศัยอยู่ในบ้านสุจัณยา ร่วมกับ ศล น้องชายบุญธรรมที่พ่อของเทียนกันยาอุปการะเลี้ยงดู ก้องไม่สบายตั้งแต่เด็ก เทียนกันยาเลยจ้าง เรือนใจ พยาบาลสาวมาดูแล จนกระทั่งก้องป่วยหนักเสียชีวิตลง เรือนใจบอก ละม่อม ละม่อมสะใจที่ยาลูกกลอนผสมสารหนูที่ฝากเรือนใจไปให้ก้องกินได้ผล เรือนใจตกใจมากที่รู้ว่าละม่อมใช้ตนเป็นเครื่องมือ ละม่อมขู่เอาผิดเรือนใจและจะเปิดเผยเรื่องเรือนใจไม่ได้จบพยาบาลมาจริงๆแต่ปลอมเอกสาร เรือนใจกลัวเลยต้องเป็นพวกละม่อมต่อไป
เทียนกันยาเสียใจที่สูญเสียน้องชาย เรือนใจเข้ามาดูแลอย่างดี เทียนกันยาจึงให้เรือนใจเป็นพยาบาลประจำตัวเธอต่อ เพื่อนก้องมางานศพของก้องรวมทั้ง อัพภันดร์ บอกว่าตนเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของก้อง ทุกคนแปลกใจที่อัพภันดร์เข้ามาสนิทสนมกับเทียนกันยา เพราะไม่เคยได้ยินชื่อนี้จากก้องมาก่อนเลย ในงานศพก้องละม่อมเข้ามาทวงสมบัติของตนโดยอ้างสิทธิ์เมียอีกคนของพ่อเทียนกันยา ประทินทนายความของบ้านสุจัณยาว่าละม่อมหมดตัวเพราะผีพนัน ละม่อมโกรธจะเข้ามาทำร้ายเทียนกันยา อัพภันดร์เข้ามาขวาง ทำให้เทียนกันยาชื่นชมอัพภันดร์ การกระทำของอัพภันดร์สร้างความแคลงใจให้กับศล เพราะศลเป็นคนดูแลเอกสารของก้อง แต่ไม่เคยเห็นจดหมายของอัพภันดร์เลยซักฉบับ ศลเตือนเทียนกันยา เทียนกันยาไม่เชื่อและต่อว่าศล ศลจึงได้แต่เฝ้าดูพฤติกรรมของอัพภันดร์อยู่ห่างๆ
จรัส ป้าของเทียนกันยาพาชายหนุ่มมาให้เทียนกันยาดูตัวเพราะเป็นห่วงเรื่องคู่ครองของหลาน เทียนกันยาไม่สนใจเพราะแอบชอบอัพภันดร์อยู่แล้ว เมื่องานศพของก้องเรียบร้อยอัพภันดร์ก็เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้านสุจัณยา คอยดูแลเทียนกันยาจนกลายเป็นความรัก อัพภันดร์อ้างว่าสำนักงานทนายความที่เชียงใหม่ซึ่งตัวเองทำงานอยู่ปิดตัวลง ทำให้เขาต้องขึ้นมาทำงานที่กรุงเทพ เทียนกันยาฝากงานให้ที่สำนักงานทนายความของประทิน และให้เข้ามาพักอยู่ในบ้านสุจัณยาแต่เป็นห้องพักที่เรือนเลี้ยงม้า ไม่ได้อยู่บนบ้านใหญ่ อัพภันดร์ไม่ค่อยพอใจนักแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จริงๆแล้วเขาไม่ได้จบทนายความอย่างที่บอกไว้ แต่ปลอมแปลงเอกสารเพื่อหลอกฮุบสมบัติของเทียนกันยา โดยพยายามตีสนิทประทินทำดีตบตาจนเขาสามารถเข้ามาดูแลทรัพย์สมบัติของเทียนกันยาแทนประณต หลานชายของประทินได้สำเร็จ
ความเจ้าชู้ของอัพภันดร์ทำให้เขาได้เสียกับเรือนใจ และอารีเสมียนในสำนักงานของประทิน อัพภันดร์ให้อารีปลอมเอกสารยักยอกเงินของเทียนกันยา แต่ประทินจับได้ อัพภันดร์แก้ตัวโยนความผิดให้ประณต ทำให้ประณตต้องลาออกไปอยู่ชุมพร ภายหลังประทินรู้ความจริงว่าอัพภันดร์ปลอมเอกสารวุฒิการศึกษา และเขาเป็นหลานของละม่อม อัพภันดร์กลัวความลับแตกจึงกำจัดประทินเสียชีวิต
เด็กในบ้านเห็นว่าเรือนใจแอบไปเรือนเล็กของอัพภันดร์ จึงไปบอกศล ศลโกรธไปบอกเรื่องนี้กับเทียนกันยา แต่อัพภันดร์กับเรือนใจไม่ยอมรับ และเรียกคะแนนสงสารจากเทียนกันยา เทียนกันยาใจอ่อน สุดท้ายอัพภันดร์ขอเทียนกันยาแต่งงาน ก่อนวันงานอัพภันดร์ให้อารีปลอมจดหมายลายมือเทียนกันยา ส่งหาศลเพื่อไล่ศลออกจากบ้าน ศลเสียใจไม่กลับมาบ้านสุจัณยาอีกเลย อัพภันดร์ให้เรือนใจวางยาเทียนกันยาให้เจ็บอ็อดๆแอ็ดๆเหมือนก้อง ก่อนตายเทียนกันยารู้ความจริงว่าอัพภันดร์คือหลานของละม่อม จึงถูกอัพภันดร์ผลักตกบันได แต่แจ้งกับหมอว่าเทียนกันยาเป็นลมตกบันได
เทียนกันยาไม่รู้ว่าตัวเองตายแล้ว วิญญาณของเธอถูกดูดเข้าไปในร่างของเจ้าบัวคำแก้ว เจ้าทางเหนือที่นิสัยเปรี้ยวจี๊ด ก็ประสบอุบัติเหตุหนักเข้ามารักษาพร้อมกัน เทียนกันยาฟื้นขึ้นมาท่ามกลางความดีใจของเจ้าส่องเมือง ละปั๋น สาวใช้ เธอเองก็ตกใจเมื่อพบว่าวิญญาณของตนอยู่ในร่างของเจ้าบัวคำแก้ว หมอสันนิษฐานว่าเธอความจำเสื่อมชั่วคราว เทียนกันยาจำเป็นต้องอยู่ในร่างของเจ้าบัวคำแก้ว และเป็นเจ้าบัวคำแก้วตามที่ทุกคนบอก เมื่อออกจากโรงพยาบาลเธอพบว่าร่างของเธอถูกอัพภันดร์เผาไปเรียบร้อยแล้ว อัพภันดร์เห็นเจ้าบัวคำแก้วก็เกิดหลงรักทันที เทียนกันยาใช้ร่างของเจ้าบัวคำแก้วเพื่อสืบเรื่องของอัพภันดร์ต่อไป
เจ้าบัวละวง ย่าของเจ้าบัวคำแก้ว และผกาฟ้าพี่สาวต่างแม่ มาที่อยุธยาเพื่อดูอาการของบัวคำแก้ว เทียนกันยารู้จากเจ้าส่องเมืองว่าบัวคำแก้วไม่ค่อยถูกกับเจ้าย่า และไม่ชอบผกาฟ้า เทียนกันยาจึงเข้าไปไหว้ขอโทษเจ้าย่า ยิ่งใกล้ชิดเจ้าย่าก็ยิ่งมั่นใจว่าวิญญาณที่อยู่ในร่างไม่ใช่บัวคำแก้ว เทียนกันยาตัดสินใจเล่าความจริง เจ้าย่าตั้งชื่อใหม่ให้เทียนกันยาว่า บัวเทียน เจ้าบัวเทียนห่วงศลจึงขอให้เจ้าย่าช่วยอุปการะส่งเสียศลต่อ เจ้าย่าให้ส่องเมืองเป็นธุระติดต่อศลเพื่อขอส่งเสียเรียนจนจบแพทย์ และให้บัวเทียนเป็นตัวแทนเขียนจดหมายติดต่อกับศล
เจ้าบัวเทียนเข้ามาให้ห้องเก็บรูปและตกใจมากเมื่อพบว่าแท้จริงแล้วเจ้าย่าเป็นย่าทวดอายุเกือบร้อยปีแล้ว เจ้าบัวละวงรู้ว่าตนเองคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานจึงเลือกผู้สืบทอดตำรายาอายุวัฒนะให้เจ้าบัวเทียน
อัพภันดร์โมโหเรื่องเรือนริมสระน้ำที่ก้องเขียนยกให้ศลก่อนตาย จึงพาลใส่อารี อารีขอแยกทางกับอัพภันดร์และขอเงินก้อนใหญ่ อัพภันดร์ยอมให้เพื่อแลกกับความลับและขู่ไม่ยอมให้อารีมีความสุขตลอดชีวิต อารีกลัวจึงเล่าความจริงให้ศลฟัง อัพภันดร์จึงตามมาฆ่าปิดปากอารี
เมื่อเรียนจบศลขอไปเป็นแพทย์ประจำอนามัยจอมทอง เพื่อทดแทนบุญคุณเจ้าย่า หลังทุกอย่างเรียบร้อยเจ้าย่าก็สิ้นลม ศลปลอบใจบัวเทียน ส่องเมืองไม่พอใจที่ศลสนิทกับเจ้าบัวเทียน บัวเทียนบอกว่าเธอคิดกับส่องเมืองแค่พี่ชาย เจ้าส่องเมืองจึงเริ่มหันไปมองผกาฟ้า ที่ดีกับตนทุกอย่างและแอบรักตนอยู่ อัพภันดร์ลอบยิงศลเพราะโกรธที่ศลแย่งเจ้าบัวเทียนไป บัวเทียนทำทีมาเยี่ยมอัพภันดร์ที่กรุงเทพ เรือนใจกลัวว่าบัวเทียนจะมาแย่งอัพภันดร์ไปจึงจ้างยอดมาฆ่าบัวเทียนแต่ศลมาช่วยไว้ทัน อัพภันดร์วางยาหวังจะข่มขืนบัวเทียน แต่วิญญาณของเจ้าบัวคำแก้วที่วนเวียนอยู่กับร่างของเธอได้เข้ามาช่วยไว้ เรือนใจขัดขวางไม่ให้แผนของอัพภันดร์สำเร็จ ทั้งคู่ทะเลาะกันรุนแรง อัพภันดร์ยิงเรือนใจ ก่อนตายเรือนใจก็แทงอัพภันดร์อาการสาหัส อัพภันดร์เห็นบัวเทียนเป็นเทียนกันยาจึงพยายามยิงใส่ แต่เขากลับเห็นภาพหลอนวิญญาณของคนที่ตัวเองฆ่าทั้งหมดตามมาทวงชีวิต สุดท้ายอัพภันดร์ก็สิ้นใจตายตามเรือนใจไป
เจ้าบัวคำแก้วมาทวงร่างของเธอคืนจากเทียนกันยา แต่เจ้าบัวละวงไม่ยอมและส่งวิญญาณของบัวคำแก้วไปเกิดเป็นลูกสาวของบัวเทียนกับศลแทน ทั้งสองแต่งงานและมาอยู่ที่บ้านสุจัณยา และตั้งชื่อลูกสาวว่า ศรีกัญญา แต่ศรีกัญญาก็เสียชีวิตลงด้วยวัยเพียง 20 ปี จากอุบัติเหตุรถชนเหมือนในชาติที่แล้วที่เธอต้องจบชีวิตลงเพราะอุบัติเหตุรถคว่ำ พ.ศ.2553 กอหญ้าฟังเรื่องราวตำนานของตระกูลตัวเองด้วยความตื้นตันใจ
Lin Yu Chun อายุ 24 ปี ซึ่งปกติทำงานในร้านขายเครื่องดนตรี โชว์พลังเสียงบนเวทีประกวดในรายการ Super Star Avenue ประมาณเดอะสตาร์ของไต้หวันแต่รางวัลเยอะถึง 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่ทำเอาผู้ชมอึ้งไปทั้งห้องส่ง โดยเฉพาะกรรมการ สังเกตสีหน้ากรรมการก็พอจะรู้ความรู้สึกได้
และเพียงชั่วข้ามคืนหลัง จากบันทึกภาพการแสดงได้ถูกนำมาเผยแพร่บน Youtube กระแสที่ดูคล้ายกับป้าซูซาน บอยล์
ผู้ประกวดบนเวที britian's got talent ทำไว้เมื่อปีก่อน ที่ดังกระฉ่อนเนตไปทั่วโลกภายในข้ามคืนก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
ที่เอามาเปรียบเทียบกันนี้ นอกจากจะด้วยเรื่องของเสียงร้อง ที่ใครฟังก็คงปฎิเสธพรสวรรค์ของทั้งคู่ไม่ได้แล้ว ที่เหมือนกันอีกอย่างคือทั้งคู่มิได้มีหน้าตาที่ชวนมอง อย่างที่นักร้องส่วนใหญ่น่าจะมี ถ้าดูเพียงรูปลักษณ์ภายนอกคงจินตนาการไม่ออกว่าจะมีเสียงสุดยอดแบบนี้
หลิน ยูชุน หนุ่มพนักงานพาร์ทไทม์ร้านอุปกรณ์ดนตรีในไต้หวันวัย 24 ปี ได้โชว์พลังเสียงบนเวที "มิลเลี่ยน สตาร์" ด้วยเพลงเพราะ ๆ ของวิทนีย์ ฮุสตัน "I Will Always Love You" จนทำเอาผู้ชมถึงกับอึ้งในความสามารถที่หนุ่มอ้วนเตี้ยคนนี้มี ทำให้เขาโกยคะแนนความประทับใจจากคณะกรรมการและผู้ชมได้อย่างมากมาย และคว้าแชมป์จากเวทีมิลเลี่ยนสตาร์ไปครองเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และด้วยความที่เขามีรูปลักษณ์ภายนอกที่อ้วนเตี้ย ไม่หล่อ แต่เสียงดีราวกับมืออาชีพ จึงทำให้ใคร ๆ ต่างเรียกเขาว่า "ซูซาน บอยล์" แห่งไต้หวันเลยทีเดียว
หลิน ยูชุน ก็ยอมรับว่าป้าซูซานเป็นแรงบันดาลใจหนึ่งที่ทำให้เค้าก้าวมาที่จุด นี้ และเชื่อว่า หนุ่มอ้วนกลมคนนี้ก็จะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นอีกต่อๆไป
ทันทีที่คุณพิมพ์ชื่อหนุ่มคนนี้ลงไปในกูเกิ้ล ก็จะพบสิ่งที่เหมือนกันของทั้งคู่อีกอย่างคือ นอกจากพรสวรรค์อันสุดยอด แล้วทั้งคู่ยังมีป๋าดันที่ชื่อว่ากูเกิ้ลและยูทูป ที่สามารถเปลี่ยนชีวิตคนคนหนึ่งได้โดยใช้เวลาเพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้น
"อย่ามาเหวง นะ" วลีเด็ดของชาวโลกไซเบอร์ ที่ปัจจุบันกลายมาเป็นคำฮิตติดปากในหมู่ประชาชนคนทั่วไป ในยามนี้
หลังมีมือดีหยิบเอาบุคคลิก และอากัปกิริยา ของ 1ใน3 แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ขณะเปิดการเจรจากับ นายกรัฐมนตรี ในมุมมองของตัวเอง ไปใช้เปรียบเทียบกับการพูดจากวกวน และพูดไม่รู้เรื่อง และนำออกมาเผยแพร่ ทั้งทางอีเมล์ เฟซบุ๊ค และ ทวิตเตอร์จนกลายเป็นที่ฮือฮาทั่วทั้งวงการ ภายในช่วงระยะเวลาเพียงสั้น ๆ
ขณะที่เมื่อได้ตรวจสอบ คำว่า "เหวง" ไปที่พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน จะแปลว่า มาก , เป็นคำใช้ประกอบคำ เบา เป็น เบาเหวง หมายความว่าเบามาก ขณะที่เมื่อมีการขยายความเพิ่มเติมว่า ในภาษาเขมรนั้น คำว่า "เหวง" แปลว่า "หลงทาง" เช่น "ขะยมอัมเหวง" แปลว่า "ดิฉันหลงทาง"
ก็ไม่รู้ทางแกนนำกลุ่มเสื้อแดง หลังทราบเรื่องดังกล่าว จะมีความเห็นออกมาอย่างไร เพราะล่าสุดเห็นแว่วๆ มาว่า มีการนำบุคคลิกของแกนนำคนอื่น ๆ เช่น นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง และ ท่านผู้หญิงวิริยา ชวกุล ไปใช้เปรียบเทียบเช่นเดียวกับกรณีของ นพ.เหวง แล้ว
ชื่อนามสกุล นายแพทย์เหวง นามสกุล โตจิราการ
วันเดือนปีเกิด 1 เมษายน 2494
ประวัติครอบครัว
สมรส กับ ผศ.ภกญ.ธิดา ถาวรเศรษฐ์ มีบุตร-ธิดา 2 คน
ชื่อบุตร-ธิดา
1. น.ส.มัชฌิมา โตจิราการ (เกิดเมื่อปี 2529)
2. นายสลักธรรม โตจิราการ (เกิดเมื่อปี 2531) "หวาย"
การศึกษา และดูงาน
- ประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสัจจศึกษา
- ประถมศึกษาปีที่ 7 โรงเรียนสหพาณิชย์
- มัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนสหพาณิชย์
- มัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พญาไท
- ปริญญาตรี วิทยาศาสตรบัณฑิต คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ปี 2518 ปริญญาตรี แพทยศาสตรบัณฑิต คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ตำแหน่งปัจจุบัน
การทำงาน และตำแหน่งหน้าที่
ปี 2510-2512 ทำงานในกลุ่มปริทัศน์เสวนา และบางฉบับของสังคมศาสตร์ปริทัศน์ฉบับนิสิตนักศึกษา
ปี 2513-2514 ประธานชมรมพุทธศาสตร์และประเพณีของสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล
ปี 2514-2515 หัวหน้าหน่วยนักศึกษาแพทย์ ของศูนย์นิสิตนักศึกษาแพทย์แห่งประเทศไทยในการดูแลสุขภาพ ของชาวสลัมในกรุงเทพฯ
ปี 2515-2516 เลขานุการศูนย์นิสิตนักศึกษาแพทย์แห่งประเทศไทย ผู้ประสานงานของหน่วยงานดูแลสุขภาพของขบวน 14 ตุลาคม
ปี 2517-2518 ประธานนักศึกษาสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล ผู้ประสานงานแนวร่วมต่อต้านเผด็จการ
ปี 2535-2539 เลขาธิการสมาพันธ์ประชาธิปไตย
- เลขาธิการ มูลนิธิวีรชนประชาธิปไตย
- อนุกรรมการคณะกรรมการปฏิรูปการเมือง
ปี 2539-2542 ประธานสมาพันธ์ประชาธิปไตย
- ที่ปรึกษาสมาพันธ์ประชาธิปไตย
- กรรมาธิการของคณะกรรมาธิการวิสามัญร่างข้อบังคับประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภา ผู้แทน
-----------------------------------------------------------------------------------------
หัวหงอกหัวดำยอมให้แกนนำด่าซ้ำว่าไพร่
สู้ไม่ทันไรมันสูบเลือดไพร่ไปใส่โหล
แล้วให้พราหมณ์เก๊ไปทำพิธีเทโชว์
แล้วให้พระเถื่อนจีวรเปรอะเปื้อนถ่อยโชว์
เคลื่อนไหวคุยโวสร้างความวุ่นวาย ม็อบเหวง
หัวขวดสามเกลอพร่ำเพ้อละเมอแต่คำว่าไพร่
เชิดชูคนดูไบยกให้เป็นไพร่ตัวพ่อ
คอยส่งน้ำเลี้ยงให้ลูกไพร่กินเพียงพอ
วีดีโอลิงค์ให้พวกไพร่ ลิงโลดชูคอ
หลอกแดกไม่รู้พอคือการเกิดก่อ ม็อบเหวง
เหวงคำนี้มันมีที่มา
จากโต๊ะเจรจา ถ่ายทอดสดทางทีวี
เมื่อเห็นหมอเฒ่าพูดจาไม่เข้าท่าที
เมื่อเห็นหมอแก่ทำตัวแย่แย่อย่างนี้
คำใหม่จึงมีรู้สึกเหมือนกันว่ามัน เหวง
นี่แหละ ม็อบเหวง ไม่เกรงก่อกวนป่วนเมืองไทย
เป็นม็อบรับใช้ให้ไพร่ตัวตัวพ่อผู้ฉ้อฉล
ปราศรัยเลอะเทอะเคลื่อนไหวเปื้อนเปรอะเลือดปน
ด้วยความเคารพ ม็อบส้นตีนตบจะเคลื่อนพล
จะออกทะเลหรือถนนวุ่นวายวกวน ม็อบเหวง
...เฮ้ย แม่งโคตรเหวงเลยหว่ะ เมิงว่าไหม?
ประจำงวดวันที่ 2010-04-01
รางวัลที่ 1
959517
ข้างเคียงรางวัลที่ 1
959518 959516
รางวัลที่ 2
372047 539618 191813 076154 047571
รางวัลที่ 3
779577 317055 992897 476571 400489 047396 785513 530319 041454 887779
รางวัลที่ 4
265502 518953 484389 378610 322760 919261 481771 743159 790053 604582 732666 880038 474498 181546 135325 175395 778795 163098 449433 525649 169847 851940 210149 106778 549778 095801 025987 404706 964982 150894 136338 231339 622798 493688 756814 901513 118618 341959 889455 077921 158399 975968 024538 762230 322329 432488 234592 686758 530134 948356
รางวัลที่ 5
028418 095618 534066 986127 013053 059295 799130 660837 257259 375046 103920 691620 159806 439906 661628 763199 874025 041404 510375 055781 156980 365765 527959 675066 500153 667452 717409 283842 510527 536430 209988 459609 459039 824552 874693 459489 097341 297778 213735 872813 484459 096825 277384 211939 480698 267622 109227 389894 712640 518201 960647 051189 136100 645200 829202 632202 089352 940605 287319 765554 292658 064961 027955 665536 720697 646469 173229 724021 232073 505392 722021 545977 117682 144784 897216 686589 441515 973819 580239 864337 198372 814615 990074 098516 282646 192564 695969 358426 941271 135666 092712 268081 416333 129579 136050 664904 637899 533633 033878 750902
รางวัลเลขท้าย 3 ตัว
174 663 447 040
รางวัลเลขท้าย 2 ตัว
22
ช่วงนี้มีข่าวระเบิด ธนาคาร สถานที่ราชการ ที่พักบุคคลสำคัญบ่อยครับ เรามาทำความรู้จักกับระเบิดขว้างชนิดต่างๆ กันดีกว่า
เริ่มแรกเลย กำลังดัง ระเบิดชนิดนี้มีผิวเกลี้ยง ใบกลมเท่าผลส้ม ชาวบ้านคุ้นกันดีในชื่อ “ลูกส้ม” ทางการเรียก ลข.88 บ 67 วงการระเบิดเรียกว่า รุ่น M67 ระเบิดรุ่นนี้ใช้เปลือกนอก เป็นสะเก็ด เวลาระเบิด สะเก็ดจะแตกออกเป็นรูปไข่ปลา มีอำนาจทำลายล้างในรัศมีฉกรรจ์ จากจุดระเบิด ตั้งแต่ 10-15 เมตรขึ้นไป
ต่อมาเป็น MK2 เป็นที่นิยมมาก ในหมู่จิ๊กโก๋บ้านเรา ต่างรู้จักกันในนาม "น้อยหน่า" ภาษาราชการเรียกว่า ลข.88 บ 2 เนื่องจากสภาพของพื่นผิวของมัน MK2 ภายในบรรจุ TNT นน.21 ออนซ์ มีชวนถ่วงเวลา 4-5 วินาที อานุภาพรัศมีทำลายล้างประมาณ10-15 ม.
อีกรุ่นที่นิยมไม่แพ้กันคือ M26 หรือเรียกว่า "ลูกเกลี้ยง" อันเนื่องมาจากลักษณะผิวเช่นกัน ลูกเกลี้ยงนั้นมี 2แบบคือ
ลข.88บ26 ภายในบรรจุระเบิดคอมโพสิชั่นB มีชนวนถ่วงเวลา4-5วินาทีเช่นกันมีน้ำหนัก 26 ออนซ์ รัศมีทำลายล้าง15 ม. ส่วนอีกรุ่นคือ
ลข.88บ61 ลักษณะโดยรวมใกล้เคียงกันแต่ต่างกันตรงที่ขอรัดคล้องคอ และกระเดื่องนิรภัย ภาษาสากลเรียกว่า รุ่น M61
ระเบิดขว้างสังหารที่นิยมอีกแบบหนึ่งคือ V40 มีชื่อทางราชการว่า ลข.12 ลักษณะทรงกลมเหมือนมะนาวแต่ปัจจุบันไม่ค่อยได้ใช้แล้ว รุ่นนี้ใช้เปลือกภายนอกเป็นสะเก็ด มีอำนาจทำลายล้างอยู่ในรัศมีฉกรรจ์ตั้งแต่ 6 เมตร จากจุดระเบิด ในอดีตทางการตำรวจเคยมีใช้ในหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) แต่ปัจจุบันจำหน่ายยอด (กำจัดทิ้ง) หมดแล้ว
น้องๆอาจสงสัย ปกติทุกเหล่าทัพมีไว้เพื่อใช้ในภารกิจการฝึก และป้องกันประเทศ ไฉนจึงหลุดรอดออกมาเพ่นพ่านนอกรั้วทหาร
คาดว่า ส่วนหนึ่งเกิดจากแนวตะเข็บชายแดนไทยรอบด้าน สถานการณ์ไม่สงบ อาจมีการหลุดรอด มาจากชนกลุ่มน้อย กองกำลังต่างชาติ และเพื่อนบ้าน ซึ่งค้าอาวุธสงครามกับผู้มีอิทธิพล ในเมืองไทย
นอกจากจะใช้วิธีขว้างกันแล้วยังมีวิธีการใช้ระเบิดอีกมากตามแต่สถานการณ์ แต่ที่นิยมคือการลอบวางระเบิดเพราะไม่ต้องปะทะกับเจ้าหน้าที่โดยตรง รูปแบบการวางระเบิดที่แพร่หลายมี3แบบคือ
วิธีแรก วางในรูปของ กับดัก
น้องๆ น่าจะคุ้นเคยกับคำนี้ ลองหลับตาแล้วนึกถึงสงครามเวียตนามหรือหนังแรมโบ้เอา การวางระเบิดกับดักแบบนี้มีรูปแบบคือต้องฝังดินหรือเส้นทางที่เป้าหมายคาดว่าจะผ่าน เมื่อเหยียบโดนปุ่มป๊าบระเบิดก็จะทำงานทันที
อานุภาพของมันทำให้ขาขาดได้ทันทีและยังเผื่อแผ่ให้คนรอบข้างได้รับบาดเจ็บอีกด้วย ระเบิดแบบนี้
เขตชายแดนเขมรก็มีมาก ฝังไว้ฆ่ากันเอง จนปัจจุบันก็ยังเก็บกู้กันไม่หมด นอกจากจะใช้สังหารบุคคลแล้ว
ยังใช้ทำลายยานพาหนะของข้าศึกได้ เช่น รถบรรทุก รถถัง ซึ่งระเบิดจะทำลายสายพานรถถังหรือเกราะใต้ท้องรถ แต่ต้องใช้ระเบิดที่อานุภาพทำลายล้างที่รุนแรงกว่าเดิม
เราจะเห็นว่า ในหนังสงครามมักมีการทำกับระเบิดแบบง่ายๆ คือใช้ระเบิดขว้างวางไว้ที่พื้นดินโดยผูกเชือกหรือลวดกับตัวกระตุกสลัก เมื่อเป้าหมายเดินสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ดูตาม้าตาระเบิดก็จะมาเตะลวดที่ว่านี้ ก็ตูมตามกันไป
การวางระเบิดแบบที่2 คือ ระเบิดเวลาโดยระเบิดจะทำงานเมื่อถึงเวลาที่ตั้งไว้ โดยจะมีส่วนที่เป็นระเบิดกับส่วนที่เป้นนาฬิกาที่มีตัวควบคุมการจุดชนวนอีกที ระเบิดเวลาแบบนี้คนร้ายยต้องรู้พฤติกรรมของเป้าหมายเป้นอย่างดี เช่น ถ้าอยากระเบิดดรงอาหารต้องเลือกเวลาที่คนเยอะที่สุด คือช่วงเที่ยง แต่ถ้าอยากจะแค่ข่มขู่ อาจจะวางในเวลาที่คนไม่ค่อยเยอะ เช่นบ่ายสอง
ระเบิดเวลายุคแรกๆ กลไกจะง่ายๆคือใช้สายไฟผูกปลายเข็มไว้
เมื่อเข็มเดินมาทับกันปลายสายไฟก็จะเดินครบวงจรทำให้เกิดระเบิด ต่อมาได้พัฒนาจนเป็นระเบิดเวลาสำเร็จรูปที่มีทั้งนาฬิกาและแม่เหล็กในตัวเพื่อเอาไว้แปะในพื้นผิวที่เป็นโลหะ สะดวก ไม่ต้องเจาะ ผูกหรือมัด
นึกถึงนักทำลายใต้น้ำเอาระเบิดไปแปะเพื่อทำลายเรือหรือแนวป้องกันใต้น้ำก็ได้ครับ
แบบที่3 คือระเบิดแสวงเครื่อง คงเคยได้ยินกันมาบ้างแต่คงจะงง ว่าเอ๊ะมันแสวงกันยังไง ระเบิดแสวงเครื่องก็คือระเบิดที่ทำงานโดยอาศัยชุดควบคุมหรือรีโมทสมัยก่อนชุดควบคุมก็คือสายไฟแบบหนังสงคราม
คือซุ่มรอดูเป้าหมายว่าถ้าผ่านเข้ามาในพื้นที่สังหารเมื่อไหร่ก็จะสับสวิชท์ให้ระเบิดทำงานต่อมาได้พัฒนาใช้ชุดควบคุมไร้สายโดยใช้สัญญาณวิทยุแต่มีข้อเสียคือถูกรบกวนได้ง่าย ไม่แน่นอน
ยิ่งโลกเราพัฒนาเทคโนโลยีไปเท่าใด ระเบิดก็พัฒนาตามไปเช่นกันปัจจุบันใช้การจุดชนวนจากโทรศัพท์มือถือเพราะสะดวกมีขนาดเล็ก จะซุกซ่อนที่ไหนก็ได้ยากต่อการตรวจค้น แถมยังจับคนกดไม่ได้ซะอีก ถ้าไม่ซวยมีคนโทรผิดเข้ามาซะเองระเบิดแสวงเครื่องในปัจจุบันจึงเป้นเครื่องมือสังหารที่อำหิตมาก
ข้อแนะนำเบื้องต้น
ข้อแรก เมื่อพบเห็นวัตถุต้องสงสัย หรือเกรงว่าจะเป็นภาชนะบรรจุระเบิด อย่าทำตัวเป็นคนขี้สงสัย หรือใจถึงโชว์หญิง ตรงรี่เข้าไปสัมผัส ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด เพื่อรอประสานไปยังหน่วยตำรวจหรือทหาร ซึ่งมีภารกิจในการเก็บกู้ระเบิดโดยตรง
ใน กทม.และปริมณฑล แจ้งได้ที่ 0-2241-0035 หรือ 0-2241-3341-5 ต่างจังหวัดแจ้งได้ตามหน่วย ตชด.ในพื้นที่ หรือหน่วยทหารช่าง และทหารสรรพาวุธ ประจำกองทัพภาคต่างๆ
ข้อถัดมา เจ้าของสถานที่หรือผู้รับผิดชอบ ควรทำเครื่องหมายบอกตำแหน่งที่วัตถุต้องสงสัยตั้งอยู่ แล้วหาสิ่งกีดขวางมาปิดกั้นมิให้บุคคลภายนอกเข้าไป
หากสิ่งต้องสงสัยวางอยู่ภายในห้องหรือในที่รโหฐาน ให้เปิดประตู หน้าต่างทุกๆบานให้มากที่สุด เพื่อลดอำนาจแรงผลักดันจากการระเบิดที่อาจเกิดขึ้น
หากมีบุคคลอยู่ในอาคารสถานที่ ให้อพยพออกจากพื้นที่ทันที เคลื่อนย้ายสิ่งของและวัสดุที่ติดไฟง่าย ออกจากพื้นที่ (เท่าที่ทำได้) ในรัศมีอย่างน้อย 100 เมตร
ข้อสุดท้าย ให้จัดหาวัสดุมาวางล้อมสิ่งต้องสงสัย เช่น กระสอบทราย หรือยางนอกรถยนต์ อย่างหนา เพื่อลดอำนาจทะลุทะลวงของสะเก็ดระเบิด ในยามที่สถานการณ์ไม่เป็นใจ